สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตของคนรักบ้าน หรือกำลังหาซื้อบ้าน หรือคอนโดใหม่ก็คือ… เราควรเลือกบ้านหรือคอนโดที่หันหน้าไปทางทิศไหนดี ทิศนี้จะโดนแดดไหม? ทิศนั้นจะมีลมถ่ายเทไหม? หรือทิศโน้นจะอับไปหรือเปล่า? วันนี้ทีมงาน The Living Insight จะมาแนะนำและไขข้อข้องใจให้กับทุกท่านเกี่ยวกับการเลือกทิศของที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดที่เหมาะสมกันนะครับ
โดยธรรมชาติแล้ว เส้นทางของแสงแดดจะโคจรเริ่มต้นจากทิศตะวันออกในตอนเช้า และอ้อมโค้งไปทางทิศใต้ และดวงอาทิตย์จะตกในทางทิศตะวันตกในช่วงเย็น ดังนั้นทิศใต้และทิศตะวันตกจะได้รับความร้อนมากที่สุดของวัน และเป็นเช่นนี้ตลอด 8 – 9 เดือนต่อปี ดังนั้นการวางตำแหน่งที่อยู่อาศัยควรคำนึงถึงทิศที่ได้รับแสงแดด รวมถึงทิศทางลม ด้วยครับ
ทิศเหนือ เป็นทิศที่มีแสงแดดจากธรรมชาติส่องเข้าถึงน้อยที่สุด จึงทำให้ทิศนี้มีความเย็นสบาย อีกทั้งเป็นทิศ ที่รับแสงแดดน้อยตลอดทั้งวัน และได้รับความร้อนจากแสงน้อยที่สุดแทบตลอดทั้งปี จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน หรือฤดูหนาว ทิศนี้ก็จะเย็นสบายตลอดทั้งปีนั้นเอง ดังนั้นควรจัดวางตำแหน่งห้องที่ใช้งานในเวลากลางวันให้มากที่สุด เช่นห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก ให้อยู่ทางทิศเหนือเนื่องจากทิศนี้จะได้รับแสงธรรมชาติที่เพียงพอ และอากาศไม่ร้อนจนเกินไปนั้นเองครับ
ทิศใต้ เป็นทิศที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และรับลมธรรมชาติ อีกทั้งยังได้รับแสงแดดตลอดทั้งปี ทิศนี้สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อลดความร้อนและให้เป็นร่มเงาทำให้ตัวที่อยู่อาศัยทิศนี้ร่มรื่น ควรจัดวางตำแหน่งพื้นที่ใช้สอยในทิศนี้เป็นห้องที่ไม่ได้ใช้บ่อย เช่นเป็นห้องเก็บของ หรือห้องน้ำ และควรมีขนาดช่องแสงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ใช้สอย เพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไป
ทิศตะวันออก เป็นทิศที่จะได้รับแสงแดดในช่วงเช้า จนถึงเที่ยง ซึ่งจะเป็นแสงแดดที่ไม่แรงมากจนเกินไป ควรจัดวางด้านแคบของตัวบ้านหรือคอนโด ให้หันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เพื่อให้มีพื้นที่ในการรับแสงแดดที่น้อยที่สุดและทำให้ที่อยู่อาศัย ดูดซับความร้อนได้น้อยในเวลากลางวันและคายความร้อนได้มากในเวลากลางคืน ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยไม่ร้อนมากจนเกินไป ตำแหน่งของทิศนี้ควรวางตำแหน่งของห้องที่ไม่ต้องการความร้อนมาก รับแสงแดดตอนเช้าๆ ได้เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เช่นเดียวกับทิศเหนือ
ทิศตะวันตก เป็นทิศที่จะได้รับแสงแดดในช่วงบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยได้รับความร้อนมากตลอดทั้งวัน รวมถึงเป็นตำแหน่งที่วางพื้นที่ใช้สอยที่สามารถลดความอับชื้นได้เป็นอย่างดี ควรวางตำแหน่งพื้นที่ใช้สอยที่ต้องการความร้อน เช่นส่วนซักล้าง หรือตำแหน่งของห้องน้ำ และควรหลีกเลี่ยงที่จะวางตำแหน่งของห้องที่ต้องใช้งานและกิจกรรมตอนเย็นถึงตอนกลางคืน รวมถึงไม่ควรวางตำแหน่งห้องนอนในทิศนี้
นอกจากทิศทางการโคจรของแสงแดด ที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีอีกส่วนที่สำคัญคือทิศทางลม ซึ่งโดยปกติแล้วประเทศไทยจะมีลมประจำฤดูที่พัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลมมรสุมในฤดูหนาว และลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือลมมรสุมในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ดังนั้นควรคำนึงถึงทิศทางลมดังกล่าว เพื่อใช้ประกอบในการออกแบบ การวางตำแหน่งของประตูและหน้าต่างที่เยื้องกัน ไว้สำหรับรับลมธรรมชาติให้ผ่านเข้าและออก ส่งผลทำให้ตัวอาคารและที่อยู่อาศัยเย็นสบาย ลดความร้อนและประหยัดค่าไฟไปด้วยในตัวครับ
▹หากบทความนี้มีประโยชน์ แชร์ให้กับเพื่อน หรือคนรู้จักที่กำลังมองหาข้อมูลนี้อยู่
อัพเดทข่าวสาร รีวิวโครงการใหม่ บทความที่น่าสนใจ ผ่านทางช่องทาง
1.Add friend ค้นหาใน LINE : @thelivinginsight (มี@นำหน้า) หรือกดปุ่มด้านล่าง
2.แฟนเพจ กดไลท์แฟนเพจ > กดติดตาม (เห็นโพสก่อน / see first) เพื่อไม่พลาดทุกข่าวสาร
หรือกดปุ่มด้านล่างนี้ (อย่าลืมตั้งค่า เห็นโพสก่อน / see first ด้วยนะครับ)
มีสมาชิกใหม่ และโพสใหม่ 